เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง กทม. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ ขนอุปกรณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุด

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง กทม. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ ขนอุปกรณ์พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำจุด

เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง วันนี้ (27 ก.ย.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) โพสต์อัปเดตความคืบหน้าการเตรียมตัวรับมือสถานการณ์น้ำพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของตัวเอง ผู้ว่าฯ อัศวิน ระบุ จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ทำให้เกิดฝนตกทั่วทั้งประเทศ และตกหนักบางแห่ง ซึ่งรวมถึง กทม.และปริมณฑล ด้วย

ฝนที่ตกหนักในจังหวัดภาคกลางทางตอนบนของ กทม. 

อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณที่ไหลผ่าน กทม. มีระดับสูงเพิ่มมากขึ้น สมทบกับระดับที่สูงขึ้นจากฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่มีจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงจากพายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่”

ปริมาณน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาที่จะไหลผ่าน กทม. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,400-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยวันนี้ (เวลา 10.00 น.) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดของ กทม. อยู่ที่ระดับ 1.55 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานครอยู่ประมาณ 1.45 เมตร จึงยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่ กทม. และยังต่ำกว่าระดับน้ำในปี 54 ที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงถึง 2.30 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

แต่ถึงแม้ว่าระดับน้ำยังไม่วิกฤต กทม. ก็ยังคงเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมตามแนวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา โดยควบคุมการเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ กระสอบทราย และมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด พร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในทันที และยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำเหนือ และติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน และประสานความร่วมมือกับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแนวทางในการป้องกัน และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำให้มีผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ให้น้อยที่สุด

กำหนดพื้นที่ห้ามออกนอกเคหสถานเพิ่มเติม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ห้ามบุคคลใดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา ๒๑.๐๐ นาฬิกา ถึง ๐๔.๐๐ นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อยสิบสี่วันนับแต่วันที่ข้อกำหนดฉบับนี้

ศบค. เลื่อนแถลง ผลประชุม ศบค. ชุดใหญ่ เป็น 14.00 น.

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ได้โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ว่าในวันนี้การแถลง ศบค. จะเลื่อนเป็น 14.00 น. จากเดิม 12.30 น. โดยคาดว่าในการแถลง ศบค. วันนี้จะมีการพูดถึงการผ่อนมาตรการโควิด-19 หลังจากที่ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ศบค. ในวันนี้

โดยคาดว่าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปก.สธ.) จะรายงานสถานการณ์และคาดการณ์แนวโน้มการแพร่ระบาดและผู้ติดเชื้อ, กระทรวงแรงงานรายงานเรื่องการปรับรายละเอียดโครงการแฟคตอรี่แซนด์บ็อกซ์ ระยะที่ 2, กระทรวงพลังงานรายงานเรื่องการแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากการปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.ฉบับที่ 12/2564 กรณีผู้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรทางน้ำเพื่อปฏิบัติภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจการปิโตรเลียม

นอกจากนี้ ศบค.จะพิจารณาการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 14 โดยศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเป็นผู้เสนอ, การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ที่เสนอโดย ศปก.สธ.เสนอ, การปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร (ปรับลดระยะเวลากักกัน การทำกิจกรรมในสถานที่กักกัน)

และหลักเกณฑ์ แผนงานและแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), แผนการให้บริการวัคซีนในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 และแผนการบริหารจัดการวัคซีน ปี 2565 เสนอโดย ศปก.สธ. นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง จะรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะของสำนักงาน และศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระสำคัญที่ ศบค.จะพิจารณาคือข้อเสนอของ ศปก.ศบค.ที่ให้ขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน หรือถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ปรับเวลาเคอร์ฟิวจากเดิมเวลา 21.00-04.00 น.ของรุ่งขึ้น ขยับเป็นเวลา 22.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น รวมทั้งพิจารณาผ่อนคลาย 10 กิจการ/กิจกรรม ได้แก่

1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน 2.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดเอกชน ห้องสมุดชุมชน 3.พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน 4.ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม หอศิลป์ 5.กีฬาในร่ม ในห้องที่มีระบบปรับอากาศ ฟิตเนส 6.ร้านทำเล็บ 7.ร้านสัก 8.ร้านนวด สปา เพื่อสุขภาพ 9.ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ และ 10.การเล่นดนตรีในร้านอาหาร ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัด ให้เฉพาะที่จำหน่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และขยายเวลาเปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. จากเดิม 20.00 น.

อีกทั้งพิจารณาแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดน้อยมาก หรือพื้นที่สีฟ้า ส่วนการกำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่สีฟ้า คือการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งจังหวัด รวมถึงการจัดพื้นที่ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทั้งอำเภอ ตำบล หรือหมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่ เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง